คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล (Cavalier King Charles Spaniel)

ลักษณะทั่วไป

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลเป็นสุนัขพันธุ์ตุ๊กตา ตัวเล็กแต่มีความสง่างาม เหมาะทั้งกับชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบท เชื่อฟังเจ้าของ ฝึกง่าย คล่องแคล่วว่องไว เป็นสุนัขที่เหมาะกับการนำไปใช้ในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ขนนุ่มยาวเส้นเล็กราวแพรไหม มีทั้งหมด 4 สี คือ สีน้ำตาลเชสนัทปนสีขาว(Blenheim) สีดำปนสีขาวและสีน้ำตาลแทน (Tricolor) สีแดงเข้ม (Ruby) สีดำและสีน้ำตาลแทน อายุโดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี

หลายสิบปีมาแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ที่ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ซึ่งได้ตั้งชื่อตามกษัตริย์ คิง ชาร์ลส์ที่ 2 ของสหราชอณาจักร ได้รับการบันทึกอยู่ในภาพวาดและรูปถ่ายร่วมกับครอบครัวชั้นสูง แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล เป็นสัตว์ที่มีเลี้ยงไว้ภายในบ้าน ประหนึ่งเป็นสมบัติอีกชิ้นที่มีราคาหรูหราของชนชั้นสูง  นอกจากนี้คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลยังสามารถระงับอารมณ์ของคนที่กำลังหวั่นวิตกให้สงบลง และเยียวยารักษาโรคเครียดได้อีกด้วย

ลักษณะนิสัย

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลมีจิตใจดี เป็นมิตร อ่อนหวาน อ่อนโยน ร่าเริงไม่เขินอาย  ไม่ก้าวร้าว  ฝึกง่าย เป็นสุนัขที่เติบโตมากับเด็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ชอบเดินออกกำลังกาย หรือไม่ก็นั่งเล่น นอนเล่น

การดูแล

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลอยู่ได้ดีทั้งพื้นที่กว้าง และพื้นที่แคบอย่างเช่น อพาร์ตเม้นต์ พวกเขาสามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายได้เองภายในตัวบ้าน หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน  ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลคือการพาพวกเขาเดินเล่นรอบๆ บ้านประมาณ 10 -15 นาทีเป็นประจำ  ในส่วนการดูแลทำความสะอาด ควรแปรงขนเป็นประจำ อย่างน้อยที่สุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะก่อนอาบน้ำ เพื่อไม่ให้ขนติดเป็นสังกะตัง การทำความสะอาดควรอาบน้ำ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง และควรตรวจเชคดูแลความสะอาดช่องหูและรอบดวงตาด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น หมาดๆ ทุกครั้งหลังอาบน้ำ

ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ต้องการความรักมากเป็นพิเศษ ผู้เลี้ยงควรมีเวลาอยู่กับเขา ให้มีกิจกรรมร่วมกับครอบครัว สามารถพาเขาเดินเล่นได้เป็นประจำทุกวัน และดูแลแปรงขนให้เขาสม่ำเสมอ

ข้อควรจำ

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล  มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ โรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข ต้อกระจก โรคหูชั้นนอกอักเสบ เสี่ยงต่อการสูญเสียการรับรู้ทางเสียง ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด ส่วนสูงและน้ำหนักทั้งตัวผู้และตัวเมียเฉลี่ยเท่ากัน
คือประมาณ 12 – 13 นิ้ว และน้ำหนัก 5 – 10 กิโลกรัม
ศรีษะ ศีรษะค่อนข้างกลมแบนไม่แหลมหรือเป็นโหนกบริเวณศีรษะ ส่วนบริเวณสันจมูกที่หักเข้าระหว่างตาทั้ง 2 ข้าง ควรหักเข้าพอสมควร ไม่ลึกหรือตื้นเกินไป
ฟัน มีลักษณะเป็นฟันกรรไกร ฟันบนเกือบเกยซ้อนกับฟันล่าง และตั้งฉากกับขากรรไกร
ปาก สะอาด ริมฝีปากไม่ห้อยแกว่ง
ตา โต กลม แต่ไม่โปนออกมา ระหว่างตาทั้งสองข้างห่างกันพอเหมาะพอดี  นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มแลดูอบอุ่น  กระจ่างใส สุข สงบให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
หู ฐานหูตั้ง แต่ไม่สูงเท่ากับส่วนบนสุดของศีรษะ หูยาวกว้าง เวลาตื่นตัวหูจะเอนไปข้างหน้าเล็กน้อย
จมูก มีสีดำสนิททั้งจมูกภายนอกและภายในจมูก ไม่มีสีอื่นปะปน
คอ ค่อนข้างยาว รูปกล้ามเนื้อโค้งเนียนได้รูปถึงช่วงหัวไหล่ ดูสง่างาม
อก อกลึก ขยายช่วงไหล่ให้กว้างขึ้น แต่ดูไม่เทอะทะ
ลำตัว มีรูปตั้งแต่ไหล่ลงไปถึงก้นมีทรงสี่เหลี่ยม ส่วนสูงช่วงโค้งระหว่างคอกับหลังถึงข้อพับขาเท่ากับส่วนสูงจากข้อพับขาถึงพื้น ช่วงกระดูกซี่โครงสั้นขยายออกแต่ไม่ดูหนาใหญ่เทอะทะ
เอว
ขาหน้า ช่วงไหล่เอนไปทางด้านหลัง ขาหน้าตั้งตรง ช่วงข้อศอกอยู่ใต้ลำตัว ใกล้กับด้านข้างทั้ง 2  ด้าน  กระดูกนิ้วเท้าแข็งแรง เท้ากระชับอุ้งเท้านุ่มรองรับการกระแทกอย่างดี
ขาหลัง ขาหลังรับกับช่วงเชิงกราน กล้ามเนื้อแข็งแรงกำลังพอดี ช่วงโค้งหน้าขาโค้งได้รูปถึงข้อเท้าที่ทิ้งตรงถึงส้นเท้า
หาง หางจัดอยู่ในตำแหน่งที่ดี ดูร่าเริงมีชีวิตชีวาแต่ไม่ถึงกับม้วนพาดขึ้นไปด้านหลัง
ขน มีความยาวกำลังพอดี เส้นบางนุ่ม เป็นลอนคลื่นบางๆ ขนยาวมากเป็นพิเศษบริเวณหู อก ขาและหาง จนถึงเท้า ถือเป็นลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์นี้ ปกติขนจะไม่มีการตัดแต่งให้ผิดทรงธรรมชาติ
สีขน Blenheim เป็นสีน้ำตาลเชสนัทตัดกับพื้นสีขาว หูควรเป็นสีน้ำตาลเชสนัท และบริเวณรอบดวงตา แต่เว้นพื้นที่สีขาวไว้บนใบหน้าระดับตาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งถือได้ว่าเป็นลักษณะเฉพาะของคาวาเลียร์ สี Blenheim ส่วนสี Tricolor คือ สีดำหมึกแต้มบริเวณขนสีขาว หูต้องมีสีดำ เว้นพื้นที่สีขาวระหว่างตาทั้ง 2 ข้าง มีสีน้ำตาลแทน แต้มบริเวณเหนือดวงตา แก้ม ด้านในของหู และด้านนอกของหาง สี Ruby ทั้งตัวมีสีแดง สุดท้ายสี ดำและสีน้ำตาลแทน สีขนทั่วทั้งตัวเป็นสีดำ มีแต้มจุดสีน้ำตาลเหนือดวงตา แก้ม ด้านในหู อก ขา และด้านนอกของหาง

ขอบคุณแหล่งที่มาเพื่อการศึกษา

เครดิต :
http://www.dogilike.com/breeds/10023/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *