ลักษณะทั่วไป
สำหรับสุนัขพันธุ์อาคิตะเป็นสุนัขขนาดกลางที่ยกย่องให้เป็นสุนัขที่าซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของมากที่สุด จนถึงกับมีการขนานนามจากทั่วโลกว่า “The Loyal Friend from the Land of the Rising Sun” หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า “เพื่อนผู้ซื่อสัตย์จากแดนอาทิตย์อุทัย” นั่นเอง และด้วยความซื่อสัตย์จนเป็นที่กล่าวขวัญของคนทั่วไป สุนัขสายพันธุ์อาคิตะ จึงเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลก
ลักษณะนิสัย
อาคิตะ เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ค่อนข้างรักสันโดษ และไม่ค่อยแสดงความรู้ออกมาให้เห็นนัก ไม่ว่าจะกับเจ้าของ คนแปลกหน้า หรือสัตว์เลี้ยงด้วยกันเอง พวกเขามักไม่ค่อยเข้าใกล้คนแปลกหน้า จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนให้เข้าสังคมอย่างเพียงพอ เพื่อลดความก้าวร้าวที่อาจเกิดขึ้นเมื่อพบคนแปลกหน้า
นอกจากนี้ อาคิตะ ยังเป็นสุนัขที่ฉลาด อดทน มีพลัง ห้าวหาญ กล้าตัดสินใจ โดยอุปนิสัยที่ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้ คือความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อเจ้าของ พวกเขาได้รับการยกย่องในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาชื่นชมและสนใจเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้กันมากขึ้นตามลำดับ
การดูแล
อาคิตะเป็นสุนัขที่ดูแลความสะอาดง่าย โดยปกติจะผลัดขนปีละ 2 ครั้ง พวกเขาจะมีนิสัยรักสะอาดอยู่แล้วดังนั้นผู้เลี้ยงจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่ควรใส่ใจก็คือ การพาพวกเขาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้อาคิตะจะเป็นสุนัขขนาดกลางแต่เขาจะมีพลังงานในร่างกายที่ค่อนข้างสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังมีนิสัยเบื่อง่าย ดังนั้นการออกกำลังกายจะช่วยให้อาคิตะได้ใช้พลังงานที่อยู่ในร่างกายอย่างสมดุล และลดความเบื่อหน่ายซึ่งเป็นที่มาของภาวะเครียดด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องที่ต้องระวังคือ แม้สุนัขสายพันธุ์อาคิตะ จะเป็นสุนัขที่สามารถทนกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ดี แต่ในทางตรงข้าม พวกเขามีความสามารถในการทนอากาศร้อนได้ในระดับต่ำ ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรหลีกเลี่ยงการเลี้ยงดูสุนัขสายพันธุ์นี้ไว้ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
ควรเป็นผู้ที่มีเวลาพอจะที่ทำกิจกรรมต่างๆ หรือพาอาคิตะไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เขาได้ใช้พลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกาย และเพื่อที่สร้างเสริมสุขภาพของเขาให้แข็งแรง และมีเวลาฝึกวินัยให้พวกเขารู้สึกมีความมั่นคงทางอารมณ์ ห่างไกลพฤติกรรมก้าวร้าว
ข้อควรจำ
อาคิตะก็มีอุปนิสัยที่เป็นข้อเสียอยู่เช่นกัน เพราะพวกเขามักมีอาการเบื่อง่าย หรือขี้เบื่อ จนอาจนำไปสู่พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ เช่น กัดข้าวของ เห่าเพรื่อ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโรคประจำสายพันธุ์ คือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เบาหวาน ควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการผิดปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด | ส่วนสูง เพศผู้ 26-28 นิ้ว เพศเมีย 24-26 นิ้ว น้ำหนัก เพศผู้ 34-54 กก. เพศเมีย 34-50 กก. |
ศรีษะ | มีขนาดใหญ่สัมพันธ์กับขนาดของลำตัว รูปร่างของหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยมียอดสามเหลี่ยมอยู่ที่ปลายจมูก กะโหลกระหว่างหูค่อนข้างกว้าง ส่วนหูปราศจากรอยย่น |
ฟัน | แข็งแรงและสบกันแบบกรรไกร |
ปาก | ปากกว้าง ขอบปากดำ กระบอกปากใหญ่ ความยาวของปากต่อความยาวของกะโหลกคือ 2:3 |
ตา | เล็กลึก สีน้ำตาลเข้ม ขอบตาตึงสีดำ |
หู | มีขนาดเล็ก ตั้งตรงเป็นรูปสามเหลี่ยม โคนหูกว้าง ปลายหูมน ลักษณะสำคัญของสายพันธุ์นี้คือ หูยกตั้งตรงกับแนวแผงคอหลัง และไม่มีรอยยับตรงช่วงหู |
จมูก | จมูกกว้าง สีดำ ส่วนสุนัขสีขาวอาจมีจมูกสีน้ำตาลได้ จุดหักของจมูกต้องชัดเจนแต่ต้องไม่หักมากจนเกินไป |
คอ | ค่อนข้างสั้น เมื่อเทียบกับขนาดของลำตัว |
อก | อกกว้างและลึก |
ลำตัว | มากกว่าความสูงประมาณ 10:9 สำหรับเพศผู้ และประมาณ 11:9 สำหรับเพศเมีย เส้นหลังตรงขนานกับพื้น ผิวหนังตึง |
เอว | – |
ขาหน้า | มีกระดูกใหญ่และตั้งตรง ข้อเท้าเอียงประมาณ 15 องศามองจากด้านหน้า ขาหน้าตั้งฉากกับพื้น ห่างกันพอประมาณ |
ขาหลัง | มีกระดูกใหญ่ ข้อเท้าหลังทำมุมพอเหมาะ |
หาง | ใหญ่และม้วน โดยหางอยู่ในระดับสูง |
ขน | ขนมีสองชั้น ขนชั้นในหนานุ่ม ขนชั้นนอกแข็งตรง |
สีขน | สีจัดเห็นได้ชัด และเป็นสีอะไรก็ได้ |
ขอบคุณแหล่งที่มาเพื่อการศึกษา